วันนี้ว่าจะลองดูว่าหลอดไฟเบรคที่ไม่ติดมันเป็นเพราะอะไร เลยไปลองถอดดู แล้วก็เห็นว่าหลอดมันขาดจริงๆ แต่ก็คิดไปว่า ถ้าเราเอาหลอดไฟถอยหลังมาใส่แทนก่อนจะดีไหม เพราะไฟเบรคใช้บ่อยกว่าน่าจะปลอดภัยหน่อย แล้วค่อยไปซื้อหลอดไฟใหม่มาใส่
แต่พอลองถอดมาเปลี่ยน กลับใส่ลงไปไม่ได้ เพราะหลอดมันไม่เหมือนกัน หลอดไฟถอยหลังตรงก้นจะมีแค่ขั้วเดียว แต่ไฟเบรคจะมีสองขั้ว คิดว่าคงเป็นเพราะมันมีหลายระดับในการเปิด
แต่ไฟถอยกับไฟเลี้ยวจะเหมือนๆ กัน
รวบรวมบทเรียนที่ได้เรียนรู้ในแต่ละวัน อาจจะเป็นเรื่องสัพเพเหระ หรืออาจจะเป็นเรื่องการทำเว็บที่เป็นงานที่ผมทำอยู่ครับ ^ ^
วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
การสวดมนต์ที่ถูกต้อง
เมื่อก่อนนี้คิดว่าการสวดมนต์นี่ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเท่าไหร่เลย คือสวดไปก็ไม่รู้เรื่องเพราะเป็นภาษาบาลี แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร นอกจากได้สมาธิในการสวดแค่นั้นเอง
แต่วันนี้ได้อ่าน ebook เรื่อง สวดมนต์ให้ถูกพุทธ เลยได้ความกระจ่างขึ้นมาว่า การสวดมนต์ที่จะทำให้ได้ประโยชน์จริงๆ มันเป็นยังไง มันมีทั้งการสวดแล้วเป็นบุญ และการสวดแล้วเป็นบาปด้วยนะ อยากให้ชาวพุทธทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้จริงๆ
และผมก็ชอบข้อความในหนังสือเล่มนี้หลายๆ ช่วง เลยขอคัดเอามาใส่ไว้ในนี้หน่อยนะครับ
" ดังนั้น ถ้าหากคนไทยจะสวดมนต์เป็นภาษาบาลีแล้วก็ควรรู้คำแปลไทยด้วย หรือควรสวดมนต์แปลไทยควบคู่กันไ ป หรือจะสวดมนต์แต่เฉพาะคำแปลไทยก ็ได้ โดยไม่ต้องกังวลในภาษาบาลีเลย แต่ถ้าสวดได้ทั้งสองอย่างรู้ควา มหมายด้วยนั่นเป็นการสวดที่ดีที ่สุด "
จากหนังสือ "สวดมนต์ให้ถูกพุทธ" หน้า 9
" สวดมนต์อย่างมิจฉาทิฏฐิ
เพื่อมุ่งหวังได้ลาภ - ยศ - สรรเสริญ - สุข จึงได้สวดมนต์ด้วยความโลภ แล้วอ้อนวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ให้ช่วยดลบัลดาลผลสำเร็จเกิดแก่ ตน
นี่เป็นความหลงผิดงมงาย จนไม่เชื่อเรื่องของกรรม(การกระทำ) ไม่เชื่อว่าบุญและบาปที่ตนทำไว้ นั่นแหละ คือตัวการสำคัญที่บันดาลชะตาชีว ิตให้เป็นเช่นนั้น ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรที่ไ หนมาบันดาลให้เลย ตามสัจจะ(ความจริง)แล้ว พระพุทธองค์ก็ตรัสไว้ชัดเจนว่า แม้จะสวดมนต์ แม้จะอ้อนวอนยังไงก็ตาม ก็จะไม่ทำให้คนเราได้ลาภ - ยศ - สรรเสริญ - สุขใดๆ เลย แต่จะได้มาก็ต่อเมื่อได้ลงมือกร ะทำ(กรรม)เอาไว้ ด้วยตัวเองเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น "
จากหนังสือ "สวดมนต์ให้ถูกพุทธ" หน้า 16
" เรื่องลาภของแต่ละคนนั้น จริงๆ แล้วพอถึงเวลาลาภก็จะได้มาเองตามกรรม(ที่เป็นบุญ)ของตน ทำนองเดียวกับความเสื่อมลาภ ก็จะได้มาเองตามกรรม(ที่เป็นบาป )ของตน ไม่ใช่ได้มาด้วยการสวดมนต์อ้อนว อนขอเอาเลย "
จากหนังสือ "สวดมนต์ให้ถูกพุทธ" หน้า 22
" การสวดมนต์ให้อาศัยร่างกายและจิตใจของตนเป็นเครื่องสักการบูช า นั่นคือสองมือพนมสิบนิ้วชิดกัน ใช้แทนดอกบัวบูชา เอาดวงจิตที่มีสติตั้งมั่นสว่าง โพลง ใช้แทนธูปเทียน นี้เป็น 'เครื่องบูชาบวงสรวง' ที่ดียิ่งกว่าดอกไม้และธูปเทียน อื่นใด "
จากหนังสือ "สวดมนต์ให้ถูกพุทธ" หน้า 33
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)